Asteroid: Final Impact
รีวิวหนัง Asteroid: Final Impact
Asteroid: Final Impact (2015) เป็นภาพยนตร์แนวไซไฟ-แอคชั่น ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับภัยพิบัติจากอุกกาบาตที่กำลังจะชนโลก โดยมุ่งเน้นไปที่การพยายามหาวิธีที่จะหยุดยั้งการชนกันนี้ นักแสดงนำในเรื่องนี้ได้แก่ Jason D. Williams, Gary Stretch, และ Christine Woods ซึ่งแต่ละคนได้ถ่ายทอดบทบาทของตัวละครได้อย่างน่าประทับใจ
รายละเอียดนักแสดง
- Jason D. Williams รับบทเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่พยายามหาแนวทางในการหยุดภัยพิบัตินี้
- Gary Stretch รับบทเป็นผู้บัญชาการที่ต้องตัดสินใจที่ยากลำบากเพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติ
- Christine Woods รับบทเป็นนักบินที่มีความสำคัญในแผนการที่จะหยุดอุกกาบาต
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
สำหรับคะแนนจาก IMDB อยู่ที่ 3.4/10 ซึ่งสะท้อนถึงความเห็นที่หลากหลายจากผู้ชม และในขณะเดียวกัน Rotten Tomatoes ก็ให้คะแนนต่ำที่ 20% โดยมีความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับเนื้อหาของภาพยนตร์และการดำเนินเรื่องที่ไม่ค่อยน่าติดตาม
สรุปเนื้อเรื่อง
Asteroid: Final Impact เปิดเรื่องด้วยการรายงานเกี่ยวกับอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งหน้ามายังโลก และนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อว่า Jason D. Williams ที่ได้รับข้อมูลจากดาวเทียมว่าอุกกาบาตนี้มีแนวโน้มที่จะชนโลกในไม่ช้า ในขณะที่รัฐบาลทั่วโลกพยายามที่จะจัดการกับวิกฤตนี้ โดยการส่งทีมไปยังอุกกาบาตเพื่อทำลายมันก่อนที่จะชนโลก
ในระหว่างที่ทีมของเขาเตรียมการและวางแผนเพื่อส่งยานไปยังอุกกาบาต พวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ ทั้งจากธรรมชาติและความขัดแย้งภายในองค์กร รวมถึงการตัดสินใจที่ต้องทำเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรที่มีจำกัด ทีมงานต้องทำงานร่วมกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับมนุษยชาติ
ภาพยนตร์นี้มีฉากแอคชั่นและเอฟเฟกต์พิเศษที่พยายามจะสร้างความตื่นเต้น แต่กลับได้รับคำวิจารณ์ว่าไม่เพียงพอที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกตึงเครียดหรือสนุกสนานมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ภัยพิบัติอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงมากกว่า
ข้อสังเกต
Asteroid: Final Impact อาจจะไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ทุกคนจะชอบ แต่ถ้าคุณเป็นแฟนของภาพยนตร์แนวไซไฟและแอคชั่นที่มีแนวคิดเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติ คุณอาจจะสนุกกับการดูมันได้ นอกจากนี้ หากคุณต้องการติดตามการถ่ายทอดสดของภาพยนตร์หรือกิจกรรมอื่นๆ คุณสามารถ ดูบอลสด ได้ที่เว็บไซต์ที่แนะนำ
สุดท้ายนี้ Asteroid: Final Impact เป็นภาพยนตร์ที่มีข้อจำกัดในด้านการเล่าเรื่องและพัฒนาเนื้อหา แต่ยังคงมีความพยายามที่จะนำเสนอประสบการณ์การรับชมที่น่าตื่นเต้นในโลกของภาพยนตร์ไซไฟ